วิธีเลือก Oscilloscope ให้เหมาะกับงานของคุณ

Oscilloscope  คือเครื่องมือวัดสัญญาณไฟฟ้าที่ใช้แสดงรูปคลื่นของแรงดันไฟฟ้าในรูปแบบกราฟบนหน้าจอ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในงานวิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และงานซ่อมบำรุงต่าง ๆ

แต่การเลือก Oscilloscope ที่เหมาะสมกับงานของคุณนั้น ไม่ใช่แค่เลือกจากราคาเท่านั้น! มาดูกันว่าเราควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนตัดสินใจซื้อ

🔍 1. ความถี่ (Bandwidth)

Bandwidth คือความสามารถในการวัดสัญญาณความถี่สูงสุดที่ออสซิลโลสโคปสามารถจับได้ โดยทั่วไปควรเลือก Bandwidth ที่ สูงกว่าสัญญาณที่ต้องการวัดประมาณ 5 เท่า เพื่อความแม่นยำ

ตัวอย่าง: หากคุณต้องการวัดสัญญาณ 20 MHz ควรเลือก Oscilloscope ที่มี Bandwidth อย่างน้อย 100 MHz

⚡ 2. อัตราการสุ่มสัญญาณ (Sample Rate)

Sample Rate คือความถี่ในการจับข้อมูลของสัญญาณ ยิ่งสูงยิ่งแสดงผลได้ละเอียด ควรเลือก Sample Rate อย่างน้อย 10 เท่าของความถี่สูงสุดของสัญญาณ

เช่น สัญญาณ 20 MHz → Sample Rate ควร ≥ 200 MS/s

📺 3. จำนวนช่องสัญญาณ (Channels)

ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน:

• 2 ช่อง: เพียงพอสำหรับงานทั่วไป
• 4 ช่องขึ้นไป: เหมาะกับงานที่ต้องวัดหลายสัญญาณพร้อมกัน เช่น การวิเคราะห์ระบบดิจิทัลหรือมอเตอร์ควบคุม

🧠 4. ฟีเจอร์พิเศษที่ควรพิจารณา

• ฟังก์ชัน FFT: วิเคราะห์ความถี่ของสัญญาณ
• การเชื่อมต่อ USB/LAN: สำหรับบันทึกข้อมูลหรือควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์
• จอแสดงผลแบบสัมผัส: ใช้งานง่ายขึ้น
• การบันทึกสัญญาณย้อนหลัง (History Mode): เหมาะกับการวิเคราะห์เหตุการณ์ผิดปกติ

🏭 5. เลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้

แบรนด์ที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้ เช่น:

• YOKOGAWA – คุณภาพสูง เหมาะกับงานวิจัยและอุตสาหกรรม
• TWINTEX – ราคาคุ้มค่า เหมาะกับงานทั่วไป

✅ สรุป: เลือก Oscilloscope อย่างไรให้คุ้มค่า

📌 สนใจ Oscilloscope คุณภาพสูง?

ที่ Royal Work Technology เราจำหน่าย Oscilloscope หลากหลายรุ่นจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

🔗 ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่: www.royalworktechnology.com

📞 สอบถามเพิ่มเติม: ทักแชทหรือโทรหาเราได้เลย!